หัวข้องานในครั้งนี้คือ “3.9G Thailand Human D.N.A” ซึ่งจัดโดยคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ ก.ท.ช.มีความประสงค์ที่จะนำเสนอเทคโนโลยี ในรูปแบบที่ก้าวหน้ามากขึ้น สร้างความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้งานมากขึ้น โดย D.N.A นั้น มีความหมายว่า D = Devices(อุปกรณ์),N = Network(เครือข่าย),A = Application(โปรแกรมต่างๆ)
สำหรับเครือข่าย 3.9G นั้น ถือว่าอยู่ในช่วงเครือข่ายการสื่อสาร ยุคที่3 (1G, 2G 3G – 3.9G) ซึ่งมีประสิทธิภาพในการใช้งานสูงมาก ซอฟต์แวร์และ แอพพลิเคชั่น สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ในหลายสาขาอาชีพ เช่น แพทย์ หรือ อาจารย์ โดยเมื่อเทียบความแตกต่างของเทคโนโลยี 3G กับ 3.9G แล้วนั้น พบว่า ต่างกันมากมาย เริ่มตั้งแต่เครือข่าย 3G มีความเร็วในการสื่อสารมากที่สุด คือ 2 Mbps ส่วน 3.9G นั้น มีมากถึง 42 Mbps หรือ กว่า 20 เท่า และเมื่อความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลมีมากขึ้น ทำให้คุณภาพในการให้บริการดีขึ้น เช่น บริการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตด้วยความเร็วสูง ซึ่งในปัจจุบันไม่สามารถปฏิเสธได้ ว่าอินเตอร์เน็ตมีความสำคัญมาก และถ้ามีบริการที่รวดเร็วขึ้น ชีวิตก็ดีขึ้นตามไปด้วย
ส่วนตัวผมซึ่งได้เข้าร่วมการทัศนศึกษาครั้งนี้ด้วย รู้สึกประทับใจในการนำเสนอเทคโนโลยีเหล่านี้ ได้รับฟังการบรรยาย ได้รับชมภาพยนตร์สั้น เกี่ยวกับเรื่องของ 3.9G เรื่อง “ใกล้” ได้เดินเที่ยวชมงานในหลายๆบู๊ท จากหลายๆบริษัทด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น Truemove นั้น ก็ได้นำเสนอในเรื่องของอุปกรณ์ที่สามารถรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น iphone หรือ ipad ซึ่งผมได้ทดลองเล่น ipadด้วยตัวเอง
สำหรับ แอพพลิเคชั่น ที่รู้สึกสนใจในตัว ipad นี้ คือ Star Walk ที่สามารถดูดวงดาวได้ และมีรายละเอียดมากมายเกี่ยวกับกลุ่มดาวที่เราสนใจ หรือจะเป็น Element ตารางธาตุ ซึ่งมีรูปประกอบ พร้อมข้อมูลมากมาย และสามารถที่จะรู้ได้ ว่าถ้าผสมธาตุใดๆแล้วจะเป็นอย่างไร แต่น่าเสียดายที่ ทั้งหมดนั้น ยังเป็นภาษาอังกฤษ และยังมีแอพพลิเคชั่นที่น่าสนใจอีกตัว คือ Heart Monitor ซึ่ง จะวัดระดับการเต้นของหัวใจเพียงแค่เปิดโปรแกรมแล้วแนบกับข้อมือ ก็สามารถรู้ระดับการเต้นของหัวใจได้
ในบู๊ทของ DTAC นั้น มีคอนเซปต์ คือ Disco 3942 นั้นคือ เปิดดาวน์โหลดโชว์สดๆวัดความเร็วของเทคโนโลยีนี้ 39 คือ 3.9G 42 คือ ความเร็วในการดาวน์โหลด 42 Mbps มีการจัดบู๊ทออกมาน่าสนใจในแนว ดิสโก้ และมี คุณหนุ่ย พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ พิธีกรจากรายการ แบไต๋ไฮเทค มาให้ความรู้ด้วย
ในบู๊ทของ MCOT นำเสนอเรื่องการ ออกอากาศสดด้วยการใช้ เทคโนโลยี Multiple touchsceen นั้นคือ เราสามารถที่จะใช้มือกดลงบน point ต่างๆ บนอากาศ แต่สามารถlinkไปที่ระบบได้อย่างรวดเร็ว ตัวอย่างที่เห็นบ่อย เช่น การพยากรณ์อากาศ
ส่วนบู๊ทอื่นๆ ก็มีการนำ อุปกรณ์ต่างๆมาโชว์ เช่นรถแข่ง หุ่นยนต์ขนาดเล็ก ที่เขียนโปรแกรมโดยนักศึกษา หรือ บู๊ทที่ขายสินค้าใหม่ๆ เช่นมือถือ หรืออุปกรณ์ที่รองรับระบบการทำงาน 3.9G
สรุปคือ งานนี้มีความน่าสนใจมาก เพราะมีความเกี่ยวข้องกับประชาชนทั่วไปมาก เกี่ยวกับความเจริญของประเทศชาติเลยทีเดียว เพราะการมีเทคโนโลยีที่สูงในการทำงาน สามารถที่จะทำให้ไม่พลาดในการทำธุรกิจ นั่นจะส่งผลให้ประเทศชาติสามารถที่เจริญทัดเทียมต่างชาติได้ แต่ยังไม่ทราบว่าอีกนานไหม ถึงจะได้ใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ ทั้งที่ลาวและกัมพูชามี 3Gใช้กันแล้ว
ข้อมูลต่างๆได้มาจากการเยี่ยมชมสถานที่ด้วยตนเอง และ จากเอกสารต่างๆที่แจกภายในงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น